วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

P = Generating

P = Generating

ประสบการณ์สำคัญ
ประสบการณ์สำคัญเป็นแนวทางสาหรับผู้สอนไปใช้ในการออกแบบการจัดประสบการณ์ ให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ และได้รับการส่งเสริมพัฒนาการครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้
๑. ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาท ในการทากิจวัตรประจาวันหรือทากิจกรรมต่างๆและสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแลสุขภาพและสุขอนามัย และการรักษาความปลอดภัย ดังนี้
๑.  การใช้กล้ามเนื้อใหญ่
๑.๑การเคลื่อนไหวอยู่กับที่
๑.๒ การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่
๑.๓ การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์
๑.๔ การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในการขว้าง การจับ การโยน การเตะ
๑.๕ การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ
.การใช้กล้ามเนื้อเล็ก
๒.๑ การเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างจากแท่งไม้ บล็อก
๒.๒ การเขียนภาพและการเล่นกับสี
๒.๓ การปั้น
๒.๔ การประดิษฐ์สิ่งต่างๆด้วย เศษวัสดุ
๒.๕ การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ
๓ การรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตัว
๓.๑ การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตรประจาวัน
๔ การรักษาความปลอดภัย
๔.๑ การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวัตรประจาวัน
๔.๒ การฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์ เกี่ยวกับการปูองกันและรักษาความปลอดภัย
๔.๓ การเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภัย
๔.๔ การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ต่างๆ
๕ การตระหนักรู้เกี่ยวกับร่างกายตนเอง
๕.๑ การเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพื้นที่
๕.๒ การเคลื่อนไหวข้ามสิ่งกีดขวาง
๒. ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจเป็นการสนับสนุนให้เด็กได้แสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะที่เป็นอัตลักษณ์ ความเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม สุนทรียภาพ ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และความเชื่อมั่นในตนเองขณะปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
๑ สุนทรียภาพ ดนตรี
๑.๑ การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี
๑.๒ การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี
๑.๓ การเล่นบทบาทสมมติ
๑.๔ การทากิจกรรมศิลปะต่างๆ
๑.๕ การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม
๒ การเล่น
๒.๑ การเล่นอิสระ
๒.๒ การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่
๒.๓ การเล่นตามมุมประสบการณ์
๒.๔ การเล่นนอกห้องเรียน
๓. คุณธรรม จริยธรรม
๓.๑ การปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่นับถือ
๓.๒ การฟังนิทานเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม
๓.๓ การร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงจริยธรรม
๔ การแสดงออกทางอารมณ์
๔.๑ การสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
๔.๒ การเล่นบทบาทสมมติ
๔.๓ การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี
๔.๔การร้องเพลง
๔.๕ การทางานศิลปะ
๕ การมีอัตลักษณ์เฉพาะตนและเชื่อว่าตนเองมีความสามารถ
๕.๑ การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆตามความสามารถของตนเอง
๖ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
๖.๑ การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นอกเห็นใจเมื่อผู้อื่นเศร้าหรือเสียใจ และการ ช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
๓ ประสบการณ์สาคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับบุคลและสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวจากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ผ่านการเรียนรู้ทางสังคม เช่น การเล่น การทางานกับผู้อื่น การปฏิบัติกิจวัตรประจาวัน การแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ
๑ การปฏิบัติกิจวัตรประจาวัน
๑.๑ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวัน
๑.๒การปฏิบัติตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒ การดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๒.๑ การมีส่วนร่วมรับผิดชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน
๒.๒ การทางานศิลปะที่ใช้วัสดุหรือสิ่งของที่ใช้แล้วมาใช้ซ้าหรือแปรรูปแล้วนากลับมา ใช้ใหม่
๒.๓ การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้
๒.๔ การเลี้ยงสัตว์
๒.๕ การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจาวัน
๓ การปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศัยและความเป็นไทย
๓.๑ การเล่นบทบาทสมมุติการปฏิบัติตนในความเป็นคนไทย
๓.๒ การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศัยและประเพณีไทย
๓.๓ การประกอบอาหารไทย
๓.๔ การศึกษานอกสถานที่
๓.๕ การละเล่นพื้นบ้านของไทย
๔ การมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย มีสวนร่วม และบทบาทสมาชิกของสังคม
๔.๑ การร่วมกาหนดข้อตกลงของห้องเรียน
๔.๒ การปฏิบัติตนเป็นสมาชิที่ดีของห้องเรียน
๔.๓ การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
๔.๔ การดูแลห้องเรียนร่วมกัน
๔.๕ การร่วมกิจกรรมวันสาคัญ
๕ การเล่นแบบร่วมมือร่วมใจ
๕.๑ การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
๕.๒ การเล่นและทางานร่วมกับผู้อื่น
๕.๓ การทาศิลปะแบบร่วมมือ
๖ การแก้ปัญหาความขัดแย้ง
๖.๑ การมีส่วนร่วมในการเลือกวิธีการแก้ปัญหา
๖.๒ การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
๗ การยอมรับในความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล
๗.๑ การเล่นหรือ ทากิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน
๔ ประสบการณ์สาคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้รับรู้ เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและสื่อต่างๆ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษา จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การคิดเชิงเหตุผล และการคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
๑. การใช้ภาษา
๑.๑ การฟังเสียงต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม
๑.๒ การฟังและปฏิบัติตามคาแนะนา
๑.๓ การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทร้อยกรงหรือเรื่องราวต่างๆ
๑.๔ การแสดงความคิด ความรู้สึก และความต้องการ
๑.๕ การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง
๑.๖ การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ
๑.๗ การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่น และการกระทาต่างๆ
๑.๘ การรอจังหวะที่เหมาะสมในการพูด
๑.๙ การพูดเรียงลาดับเพื่อใช้ในการสื่อสาร
๑.๑๐ การอ่านหนังสือภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ
๑.๑๑ การอ่านอิสระตามลาพัง การอ่านร่วมกัน การอ่านโดยมีผู้ชี้แนะ
๑.๑๒ การเห็นแบบอย่างของการอ่านที่ถูกต้อง
๑.๑๓ การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษร คา และข้อความ
๑.๑๔ การอ่านและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัดจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง
๑.๑๕ การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือคาคุ้นเคย
๑.๑๖ การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นคาผ่านการอ่านหรือเขียนของผู้ใหญ่
๑.๑๗ การคาดเดาคา วลี หรือประโยค ที่มีโครงสร้างซ้าๆกัน จากนิทาน เพลง คาคล้องจอง
๑.๑๘ การเล่นเกมทางภาษา
๑.๑๙ การเห็นแบบอย่างของการเขียนที่ถูกต้อง
๑.๒๐ การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียนอิสระ
๑.๒๑ การเขียนคาที่มีความหมายกับตัวเด็ก/คาคุ้นเคย
๑.๒๒ การคิดสะกดคาและเขียนเพื่อสื่อความหมายด้วยตนเองอย่างอิสระ
๒ การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจและแก้ปัญหา
๒.๑ การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม
๒.๒ การสังเกตสิ่งต่างๆ และสถานที่จากมุมมองที่ต่างกัน
๒.๓ การบอกและแสดงตาแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของสิ่งต่างๆด้วยการกระทา ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ
๒.๔ การเล่นกับสื่อต่างๆที่เป็นทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก กรวย
๒.๕ การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจาแนกสิ่งต่างๆตามลักษณะและรูปร่าง รูปทรง
๒.๖ การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ให้สมบูรณ์ และการแยกชิ้นส่วน
๒.๗ การทาซ้า การต่อเติม และการสร้างแบบรูป
๒.๘ การนับและแสดงจานวนของสิ่งต่างๆในชีวิตประจาวัน
๒.๙ การเปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนของสิ่งต่างๆ
๒.๑๐ การรวมและการแยกสิ่งต่างๆ
๒.๑๑ การบอกและแสดงอันดับที่ของสิ่งต่างๆ
๒.๑๒ การชั่ง ตวง วัดสิ่งต่างๆโดยใช้เครื่องมือและหน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน
๒.๑๓ การจับคู่ การเปรียบเทียบ และการเรียงลาดับ สิ่งต่างๆ ตามลักษณะความยาว/ความสูงน้าหนัก ปริมาตร
๒.๑๔ การบอกและเรียงลาดับกิจกรรมหรือเหตูการณ์ตามช่วงเวลา
๒.๑๕ การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ในชีวิตประจาวัน
๒.๑๖ การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทา
๒.๑๗ การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิ่งที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล
๒.๑๘ การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล
๒.๑๙ การตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา
๓ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
๓.๑ การรับรู้ และแสดงความคิดความรู้สึกผ่านสื่อ วัสดุ ของเล่น และชิ้นงาน
๓.๒ การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศิลปะ
๓.๓ การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปร่างรูปทรงจากวัสดุที่หลากหลาย
๔ เจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการแสวงหาความรู้
๔.๑ การสารวจสิ่งต่างๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตัว
๔.๒ การตั้งคาถามในเรื่องที่สนใจ
๔.๓ การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหาคาตอบของข้อสงสัยต่างๆ
๔.๔ การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและนาเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหาความรู้ในรูปแบบต่างๆและแผนภูมิอย่างง่าย
สาระที่ควรเรียนรู้
สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่นามาเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดแนวคิดหลังจากนาสาระการเรียนรู้นั้น ๆ มาจัดประสบการณ์ให้เด็ก เพื่อให้บรรลุจัดหมายที่กาหนดไว้ทั้งนี้ ไม่เน้นการท่องจาเนื้อหา ครูสามารถกาหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการ และความสนใจของเด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์สำคัญ ทั้งนี้ อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้โดยคานึงถึงประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมในชีวิตจริงของเด็ก ดังนี้
๒.๑ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรรู้จักชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา รู้จักอวัยวะต่างๆ วิธีระวังรักษาร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การระมัดระวังความปลอดภัยของตนเองจากผู้อื่นและภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักความเป็นมาของตนเองและครอบครัว การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน การเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่น การรู้จักแสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การกากับตนเอง การเล่นและทาสิ่งต่างๆด้วยตนเองตามลาพังหรือกับผู้อื่น การตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเอง การสะท้อนการรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น การแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกอย่างเหมาะสม การแสดงมารยาทที่ดี การมีคุณธรรมจริยธรรม
๒.๒ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน และบุคคลต่างๆ ที่เด็กต้องเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน สถานที่สาคัญ วันสาคัญ อาชีพของคนในชุมชน ศาสนา แหล่งวัฒนาธรรมในชุมชน สัญลักษณ์สาคัญของชาติไทยและการปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย หรือแหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอื่นๆ
๒.๓ ธรรมชาติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของมนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้ำ  ท้องฟูา สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรง และพลังงานในชีวิตประจาวันที่แวดล้อมเด็ก รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการรักษาสาธารณสมบัติ
๒.๔ สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายในชีวิตประจาวัน ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้หนังสือและตัวหนังสือ รู้จักชื่อ ลักษณะ สี ผิวสัมผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตร น้าหนัก จานวน ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆรอบตัว เวลา เงิน ประโยชน์ การใช้งาน และการเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการสื่อสารต่างๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันอย่างประหยัด ปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น